
เมื่อว่าง

เมื่อว่างเว้นจากงาน หรือไม่มีอะไรที่จะต้องทำให้คิด ข้าพเจ้ามักจะทำตัวเอง
ให้ต้องทำอะไรสักอย่าง ด้วยที่ข้าพเจ้านิยมชอบสิ่งที่สวยงาม ข้าพเจ้าจึงนั่งคิด
ที่จะทำอะไรให้มันสวยงามอยู่เสมอ เมื่อโอกาสใดโอกาสหนึ่งสำหรับใครสักคน
ข้าเจ้ามักจะมอบให้ในโอกาสพิเศษสำหรับคนนั้น หรือบ้างครั้งช่วงที่ข้าพเจ้า
เบื่อหน่ายหรือท้อบ้าง สิ่งเหล่านี้ที่ข้าพเจ้าได้ทำขึ้น มันได้ช่วยทำให้ข้าพเจ้าดีขึ้น
อาจไม่มากมาย แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายลงไปกว่าในช่วงเวลาไม่พึงปรารถนาช่วงนั้น
ข้าพเจ้าจึงชอบที่จะทำอะไร เพื่อคนอื่นและเพื่อตัวข้าพเจ้าเอง
ฮิญาบและซิสเตอร์

ฮิญาบ และผ้าคลุมของซิสเตอร์ในคริสต์ศาสนา ลักษณะการใช้งานดูภายนอก ข้าพเจ้ายังไม่รู้ว่ามันต่างกันอย่างไร วัตถุประสงค์และเจตนาของการคลุม โพก แต่ถ้าเป็นเรื่องเดียวกันข้าพเจ้าก็พอจะรู้ว่า ในอิสลามะห์ฮิญาบที่คลุม วัตถุประสงค์คือการปกป้องสิ่งที่พึงสงวน ในที่นี้คือเนินอก แต่ถ้าหากคาดแค่เนินอกเหมือนผู้หญิงในยุคอดีตของไทยก็จะดูไม่ทันสมัย ข้าพเจ้าจึงคิดและเข้าใจว่าให้คลุมศีรษะแล้วตวัดชายฮิญาบให้มาปิดเนินอก น่าจะดูดีภูมิฐานมากกว่า เพราะศรีษะไม่ใช่ส่วนที่พึงสงวนหรือส่วนที่ล่อแหลมต่อฝ่ายตรงข้ามให้เกิดกิเลส แต่ในส่วนของซิสเตอร์ "ชี"ของคริสต์ศาสนา ข้าพเจ้าไม่ทราบ แต่ก็เพียงคิดว่าน่าจะมาจากเจตนาเดียวกัน อีกอย่างของความเชื่อก็คือ ทั้งอิสลามและคริสต์มีศาสดาองค์เดียวกัน.
.................
ดวงตา...แววตา...

เมื่อนานมาแล้วตอนที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสเดินตามร้านศิลปินขายภาพเหมือน ข้าพเจ้าได้สะดุดกับผู้หญิงในภาพวาดภาพหนึ่ง ให้ข้าพเจ้าต้องหยุดนิ่งสงบสบตาอยู่กับที่ เหมือนมีมนต์อำนาจ แววตาที่ฉายมาจากตาคู่นั้น มันมีพลังเด็ดเดี่ยวที่แฝงความอ่อนโยนให้น่าไว้เนื้อเชื่อใจ ข้าพเจ้ารู้สึกถึงความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่อยู่ในตาคู่นั้น หลังจากวันนั้นข้าพเจ้าก็ไม่ละทิ้งที่จะติดตามความเป็นไปและอดีตของเธอ ช่างภาพ National Geographic คนนั้นก็เช่นกัน เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ภาพผู้หญิงดวงตาฉายแววเด็ดเดี่ยวคู่นั้น เป็นภาพที่ตรึงคนให้นิ่งหยุดอยู่กับที่ได้ แม้จะภาพเขียนก็เถอะ ข้าพเจ้ารู้ว่าหลังจากวันนั้นไม่นานช่างภาพคนนั้นก็ได้พยายามตามหา ที่จะได้เจอเธออีกครั้ง
และอีกครั้งของช่างภาพคนนั้น เค้าโครงรูปร่างหน้าตาเธอเปลี่ยนไป แต่ที่ยังไม่เปลี่ยนคือประกายแววตาคู่นั้น ความรับผิดชอบก็ยังคงเดิม ท่ามกลางความแร้นแค้นและกระสุนสงคราม... สักครั้งไม่ใช่โอกาสอันยิ่งใหญ่นัก ข้าพเจ้าก็ปรารถนาที่จะเจอเจ้าของแววตาคู่นั้น แม้ว่าวันนั้น...ดวงตาคู่นั้นอาจมิได้ฉายแววเพราะกาลเวลา แต่ขออย่าให้ดวงตาคู่นั้นได้มีแววเศร้าหมอง อยากให้ความสุขจงเกิดแด่เธอ.
และอีกครั้งของช่างภาพคนนั้น เค้าโครงรูปร่างหน้าตาเธอเปลี่ยนไป แต่ที่ยังไม่เปลี่ยนคือประกายแววตาคู่นั้น ความรับผิดชอบก็ยังคงเดิม ท่ามกลางความแร้นแค้นและกระสุนสงคราม... สักครั้งไม่ใช่โอกาสอันยิ่งใหญ่นัก ข้าพเจ้าก็ปรารถนาที่จะเจอเจ้าของแววตาคู่นั้น แม้ว่าวันนั้น...ดวงตาคู่นั้นอาจมิได้ฉายแววเพราะกาลเวลา แต่ขออย่าให้ดวงตาคู่นั้นได้มีแววเศร้าหมอง อยากให้ความสุขจงเกิดแด่เธอ.
Islamic ชน

อิสลาม...
พลบค่ำของวันหนึ่งน้ำตกบนดอยสูงสาดละอองกระเซ็นชื้นจนชุ่ม ข้าพเจ้ารู้สึกอยากเดินเลาะริมน้ำตกเดินให้ไกล้ตัวน้ำตกมากที่สุด ด้วยทางที่ชุ่มน้ำตลอดปีตะไคร่เขียวเกาะปูแผ่นบนทางเดินลื่นไถล เดินระวังแทบไม่เงยหน้า ทางลื่นชื้นแฉะ ระหว่างโขดหินจวนถึงตัวน้ำตกที่ไหลซ่าลงมาข้าพเจ้าถูกละอองน้ำตกจนชื้นเปียก คิดในใจว่าจะหลบละอองเก็บของที่เปียกไม่ได้ไว้หลังโขดหิน แต่ไม่มีที่ว่างหลังโขดหินนั้น ข้าพเจ้าได้พบผู้หญิงชาวมุสลิมสามคนเนื้อตัวมอมแมมชุดมุสลิมเปียกเปรอะเลอะโคลน ฮิญาบสีดำละอองน้ำเกาะพราว ข้าพเจ้าทำท่าจะเดินออกมาด้วยเพราะไม่มีที่ว่างหลังโขดหินนั้น แต่กลับถูกเชื้อเชิญด้วยน้ำเสียงที่ฟังไม่ได้ความ แข่งกับเสียงน้ำตก ข้าพเจ้าฟังไม่ได้ศัพท์เพราะเสียงน้ำตกนั่นกลบเสียงเธอไว้หมด แต่ก็รู้ในเจตนาและความหมาย ข้าพเจ้าสื่อสารด้วยภาษากายทำท่าทางปลดเป้จากหลังแล้วชี้ไปยังที่ว่างที่ยังพอมีเหลือ แล้วยื่นเป้ไบหนักนั้นให้เธอช่วยเก็บให้พ้นละอองน้ำตก ด้วยเสียงน้ำตกการสื่อสารด้วยคำพูดแทบไม่ได้ผล แต่ก็รู้ความพอเดาได้ว่าเธออยากเดินไปหน้าผาน้ำตกแรงนั้นด้วย ข้าพเจ้าตอบรับด้วยการผงกหัวแล้วพากันอย่างระมัดระวังและคอยชี้จุดที่น่าจะล้มได้ง่าย...แต่ก็มิวายเธอล้มจนได้ ก้นจ้ำเบ้าเกือบหงายหลัง เธอนั่งห้วเราะอยู่ตรงนั้นหัวเราะหัวเราะให้กับการลื่นล้มของตัวเอง เป็นภาพการหัวเราะที่ข้าพเจ้าอดใจไม่ได้ที่จะหัวเราะตามแบบสุดๆ เปิดเผยเป็นธรรมชาติมาก ทำให้ข้าพเจ้าได้หัวเราะอย่างสุดๆอีกครั้งในรอบหลายวันหรือหลายสัปดาห์หรือเดือนก็ไม่รู้ ก่อนที่จะยื่นมือช่วยเธอพยุงตัวเองลุกจากพื้นลื่นแฉะตรงนั้น ตัวหนักไม่เบาจนข้าพเจ้าเกือบล้มไปอีกคน ก่อนที่จะพากันก้าวอย่างระมัดระวังให้ไกล้ตัวน้ำตก....ช่างใหญ่โตอะไรอย่างนี้ เมื่อเราแหงนหน้ามองขึ้นไปบนน้ำที่ตกลงมา ฟ้าที่ยังมีแดดทอบนฟ้าสีน้ำเงินเข้มนั้น...มีแต่ข้าพเจ้ากับคนที่ล้มสองคนเมื่อถึงหน้าน้ำตกใหญ่ อีกสองคนยืนห่างอยู่ด้านหลัง โบกไม้โบกมือว่าแค่นี้ก็พอแล้ว..........ฮิญาบสีดำน้ำเกาะพราวเป็นหยด ขนคิ้วหนาดกระยิบระยับไปด้วยละอองน้ำ...
เมื่อพ้นตัวน้ำตกออกมาสื่อสารกันด้วยภาษาพูดกันรู้เรื่อง ข้าพเจ้าจึงรู้ว่าเธอมาจากอิหร่าน เราคุยกันเรื่องศาสนาหน่อยนึง ที่อัฟกานิสถานและสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เธอเป็นอิสลามิคชนที่เปิดเผยมาก ข้าพเจ้าไม่เคยพูดคุยไกล้ชิดกับผุ้หญิงอิสลามต่างชาติแบบนี้มาก่อน สาหรี่ชุดดำเลอะโคลน ฮิญาบเปียก เราเดินไปคุยไปยังรถตู้ที่จอดรอเธออยู่ คนขับเปิดประตูรถกว้าง เธอก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ ฮิญาบถูกคลี่เปิดส่วนที่ปิดชิด ข้าพเจ้าได้แต่โค้งศรีษะให้เธอนิดนึงก่อนที่จะขอตัวเดินออกมา มิใยได้ยินเสียงตะโกนตามหลังมาว่า We know you man.
ฮิญาบ...นัยน์ตา...

หญิงมุสลิมคลุมศีรษะด้วยฮิญาบ ดูแปลกตาเพราะข้าพเจ้าไม่ค่อยได้พบเห็นบ่อยนัก อาจเพราะด้วยหลักของศาสนาเธอจึงคลุมฮิญาบตลอดเวลา บางประเทศที่เคร่งขึ้นไปก็จะคลุมให้โผล่แค่นัยน์ตาให้มองเห็น แต่ที่ยิ่งกว่านั้นบางประเทศจะคลุมหมด ให้เป็นม่านเฉพาะตรงใบหน้าเท่านั้น บางประเทศจะร้อนจัดในหน้าร้อน ข้าพเจ้าไม่ทราบผู้หญิงมุสลิมเหล่านั้นพวกเธอทนได้อย่างไร เธอคงร้อน แต่ด้วยหลักของศาสนาจึงจำต้องอดทนอุดอู้คลุมหน้าในฮิญาบนั้น
จะอย่างไรก็ตามข้าพเจ้าก็ยังรู้สึกถึงความเป็นเฉพาะเอกลักษณะพิเศษ บางครั้งก็ชวนให้จินตนาถึงใบหน้าที่ซ่อนมิดในฮิญาบนั้นว่าสวยงามปานใด ข้าพเจ้าจึงรู้สึกว่านั่นคือเสน่ห์อีกอย่างของผู้หญิงชาวมุสลิม ที่ข้าพเจ้าไม่ค่อยได้พบเห็นบ่อยนัก. 
แรงผลักที่ทำให้เกิด Blog

Blog นี้ข้าพเจ้าได้ทำขึ้นเพราะข้าพเจ้าได้บันทึกว่าเป็นพุทธ และอีกหลายเรื่องราวที่ข้าพเจ้ายังไม่รู้เกี่ยวกับอิสลามิคชน ความขัดแย้งทางศาสนา ที่อัฟกานิสถาน ตะวันออกกลาง และสามจังหวัดชายแดนไต้ของไทย
หลังจากที่ข้าพเจ้าได้คุยกับอิสลามิคชน เกี่ยวกับศาสนาอิสลามและความขัดแย้งกับต่างศาสนา ข้าพเจ้าจึงรู้ว่ายังมีอีกมากมายที่ข้าพเจ้ายังไม่รู้ จริงๆข้าพเจ้าก็ไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับศาสนาอิสลามหรอก รู้เพียงพื้นผิวเผินว่าเป็นศาสนาที่เคร่ง มีความขัดแย้งกับต่างศาสนาบ่อย และวันนี้ข้าพเจ้าได้รู้เพิ่มด้วยไมตรีมิตรจากอิสลามิคชน ว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ข้าพเจ้าได้เคยคิดไว้ทั้งหมด อย่างน้อยข้าพเจ้าก็ได้รับรู้ซึมซาบความจริงบางเรื่องจากไมตรีมิตรอิสลามิคชนต่างชาติ ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ดีมากในสถานการณ์ของความขัดแย้ง อย่างน้อยข้าพเจ้าต้องได้รู้และเพิ่มรู้ให้เปิดเผย ต่อคนที่ยังไม่รู้ ยังมีอีกมากหลังกำแพงศาสนาอันศักดิ์สิทธิ์ และยากที่คนนอกกำแพงจะย่างกรายเข้าไปสัมผัสรับรู้เรื่องราวที่ซ่อนเร้นปิดบังหลังกำแพงศักดิ์สิทธิ์นั้น
ข้าพเจ้าเชื่อมั่นอยู่เสมอ มนุษย์อาจปิดบังซ่อนเรื่องราวที่อยู่ภายในจิตใจได้ แต่ดวงตาและรอยยิ้มไม่สามารถปิดบัง เรื่องราวในนั้นได้.
หลังจากที่ข้าพเจ้าได้คุยกับอิสลามิคชน เกี่ยวกับศาสนาอิสลามและความขัดแย้งกับต่างศาสนา ข้าพเจ้าจึงรู้ว่ายังมีอีกมากมายที่ข้าพเจ้ายังไม่รู้ จริงๆข้าพเจ้าก็ไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับศาสนาอิสลามหรอก รู้เพียงพื้นผิวเผินว่าเป็นศาสนาที่เคร่ง มีความขัดแย้งกับต่างศาสนาบ่อย และวันนี้ข้าพเจ้าได้รู้เพิ่มด้วยไมตรีมิตรจากอิสลามิคชน ว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ข้าพเจ้าได้เคยคิดไว้ทั้งหมด อย่างน้อยข้าพเจ้าก็ได้รับรู้ซึมซาบความจริงบางเรื่องจากไมตรีมิตรอิสลามิคชนต่างชาติ ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ดีมากในสถานการณ์ของความขัดแย้ง อย่างน้อยข้าพเจ้าต้องได้รู้และเพิ่มรู้ให้เปิดเผย ต่อคนที่ยังไม่รู้ ยังมีอีกมากหลังกำแพงศาสนาอันศักดิ์สิทธิ์ และยากที่คนนอกกำแพงจะย่างกรายเข้าไปสัมผัสรับรู้เรื่องราวที่ซ่อนเร้นปิดบังหลังกำแพงศักดิ์สิทธิ์นั้น
ข้าพเจ้าเชื่อมั่นอยู่เสมอ มนุษย์อาจปิดบังซ่อนเรื่องราวที่อยู่ภายในจิตใจได้ แต่ดวงตาและรอยยิ้มไม่สามารถปิดบัง เรื่องราวในนั้นได้.
ฮิญาบ...สงคราม...
อิสลามิคชน ที่ประเทศของตัวเองตกอยู่ในท่ามกลางความขัดแย้ง อยู่ในภาวะของสงคราม พวกเธอเหล่านั้นได้สัมผัสอย่างลึกซึ้งของความสูญเสีย ไม่เหลือแม้กระทั่งหยดน้ำและดวงตา... บางคนถึงกลับเสียโฉมรูปงามที่ปกปิดมานาน
สงครามได้พรากสิ่งสุดท้ายไปจากเธอ เปิดผ้าคลุมฮิญาบ...ด้วยเหตุอันใดเล่าต้องปกปิด เธอได้สูญเสียมันไป ผ้าคลุมฮิญาบไม่สามารถปกป้องเธอได้...มันไม่มีวันจะให้คืนกลับมาเหมือนเดิม แต่เธอต้องคลุมไม่ใช่เพราะว่าอัปลักษณ์ แต่เพราะนี่คือหลักคือกฎของศาสนาที่เธอไม่สามารถขัดขืนดื้อดึงอยู่เหนือกฎเกณฑ์นั้นได้
ท่องเที่ยว/Photoshop/ที่นี่ประเทศไทย/Clip /ฤดูหนาว / นก /ที่พักรูปแบบการท่องเที่ยว /ปีใหม่ม้ง /เว็บบอร์ด Webboard
087-9767532 : limkan@gmail.com:greethai@hotmail.com
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)

